(เป็นการนำเสนอที่หลายคนเข้าใจผิดได้มากที่สุด)

.

การนำเสนอแบบ Solution ไม่ได้เน้นสินค้าหรือบริการอย่างใดเพียงอย่างหนึ่ง แต่เน้นไปที่การเข้าใจภาพรวมของสิ่งๆ นั้น โดยทำความเข้าใจที่ เป้าหมาย กระบวนการ ลำดับ ปัญหาที่จะเกิด จนเข้าใจแล้วนำเสนอคุณค่าแบบครั้งเดียว ภาพใหญ่จะมองเห็นคุณค่ามหาศาล

.

แต่หากถ้าเราไม่เข้าใจ วิธีนำเสนอ solution แต่คิดแค่การนำเสนอแบบที่ปรึกษาคือ เน้นหา “ปัญหา” อันนั้นเข้าใจผิดครับ เพราะสุดท้ายเราจะเอาแต่ถามอีกฝ่ายว่ามีปัญหาอะไร มีอุปสรรคตรงไหน

.

อย่าลืมไปว่า Solution คือการทำงานแบบที่ปรึกษา ดังนั้นต้องเข้าใจภาพรวมครับ

.

วิธีการ 4 ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราบรรลุการนำเสนอแบบ solution ได้ดีขึ้น

1. ก่อนนำเสนอ Solution อะไร เราต้องศึกษา เป้าหมายองค์กร กระบวนการทำงาน วิธีการที่เขาเลือกใช้ เรียกง่ายๆ ว่าทำการบ้านก่อน (ไม่ใช่นำเสนอของเราอย่างเดียวแล้วบอกนั้นคือ solution)

2. การนำเสนอต้องเริ่มจากทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราเข้าใจ

เป้าหมายองค์กร

กระบวนการทำงาน

วิธีการที่เขาเลือกใช้

3. กล่าวถึงปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเป้าหมายที่อีกฝ่ายอยากจะทำ แต่ยังขาดไป (ตรงจุดนี้ที่หลายคนทุ่มที่ปัญหาแต่ลืมทุ่มไปที่การนำเสนอบนความต้องการ)

4. เปรียบเทียบข้อได้เปรียบระหว่างการทำงานร่วมกับเราและการไม่ได้ทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจ

.

เห็นไหมครับ ไม่ยากเลย แต่แค่ต้องเข้าใจมุมมองให้มากกว่า เราถึงทำให้การนำเสนอไม่ใช่แค่การแก้ปัญหา แต่เป็นการลงทุนเพื่อไปถึงเป้าหมายอีกด้วย

.

กรณีศึกษา

การที่บริษัท A นำเสนอระบบคิดเงินอัตโนมัติผ่านระบบ ไม่ใช้การคำนวณเหมือนในอดีต ให้กับลูกค้าร้านอาหาร ไม่ใช่เพราะแค่อยากให้เขาแก้ปัญหาเรื่องคิดเงินผิด และการทุจริตเท่านั้น (เพราะแบบนี้มองแค่ปัญหา) แต่จริงๆ เรายังสามารถใช้วิธีนี้ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อให้เจ้าของขยายตัวทางธุรกิจได้ง่าย ควบคุมได้ง่ายอีกด้วย เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ปัญหาซะหน่อย

.

ดังนั้นเราจะสามารถขายทั้ง เครื่องคิดเงินอัตโนมัติ บริการให้คำปรึกษาการติดตั้ง การบริการในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังรวมไปถึงการขายงานซ่อมในอนาคตแบบครบวงจรเลยทีเดียว

.